LPN ชี้ ยอดขายลุมพินี คอนโดทาวน์ รามอินทรา-หลักสี่ โตสวนกระแส
LPN ชี้ตลาดคอนโดยังรุ่ง เพียงผู้ประกอบการค้นพบดีมานด์ ซึ่งไม่จำเป็นต้องติดแนวรถไฟฟ้า สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ขยายตลาดคอนโดให้โตขึ้นด้วยทำเลที่ไร้คู่แข่ง เผย เปิดขายลุมพินี คอนโดทาวน์ รามอินทรา-หลักสี่ เพียงวันเดียว กวาดยอดขายได้ 100%
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) กล่าวถึงสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน ที่หลายฝ่ายเริ่มมีความกังวลว่าจะเกิดภาวะ Over Supply โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับราคาล้านต้นๆ จนทำให้เกิดภาวการณ์การแข่งขันที่สูง หรือที่เรียกว่า Red Ocean ในบางทำเล ประกอบกับการมีปัจจัยลบที่มาส่งผลกระทบ โดยเฉพาะดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งในส่วนของบริษัทฯ เองกลับมีความเห็นว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อาจยังไม่ถึงจุดที่ทำให้ต้องกังวล หากผู้ประกอบการได้ศึกษา และพยายามแสวงหาช่องว่างทางการตลาดที่ยังคงมีอยู่ในทำเลต่างๆ ที่กระจายตัวอยู่ในกรุงเทพมหานคร ที่ซึ่งกำลังซื้อและความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่เป็นจำนวนมาก
ด้วยประสบการณ์การทำงานของ LPN ตลอดมาในธุรกิจคอนโดมิเนียม จึงกล้าบ่งชี้ได้ว่าธุรกิจคอนโดไม่เคยชะลอตัวหรือหยุดนิ่ง เพียงผู้ประกอบการต้องสร้างจุดแตกต่างและหาตลาดที่แท้จริงให้พบ ซึ่งช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ที่ผ่านมา LPN ถือเป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวที่ไม่ได้หยุดนิ่งในการพัฒนาโครงการ แต่ได้บุกเบิกทำเลพร้อมพัฒนาแบรนด์ใหม่ "ลุมพินี เพลส" เพื่อสร้างตลาดคอนโดระดับกลาง ซึ่งแบรนด์ดังกล่าวถือเป็นต้นแบบการพัฒนาคอนโดมิเนียมของผู้ประกอบการรายอื่นๆ ต่อมา
เช่นเดียวกับปัจจุบันที่ผู้ประกอบการต่างมุ่งเป้าและให้ความสนใจกับการพัฒนาคอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้า เพื่อชิงส่วนแบ่งทางการตลาดเดียวกัน ทำให้เกิดการแข่งขันที่สูงมากและอาจเกิดภาวะอุปทานล้นตลาด แต่ LPN จะให้ความสนใจกับตลาด และกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันไป เพื่อสร้างตลาดคอนโดมิเนียมให้เติบโต และขยายตัวขึ้น เห็นได้ชัดจากการสร้างแบรนด์ใหม่ "ลุมพินี คอนโดทาวน์" ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงจากโครงการ "ลุมพินี คอนโดทาวน์ บดินทรเดชา-รามคำแหง" และจากการเปิดขาย "ลุมพินี คอนโดทาวน์ รามอินทรา-หลักสี่" เมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา พบว่า
การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ในระดับล่าง-บน ที่มีรายได้ต่อเดือนประมาณ 15,000 บาท ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่มาก รวมถึงการแสวงหาทำเลใหม่ที่มีศักยภาพ และการเติบโต เช่น ย่านรามอินทรา ย่านที่อยู่อาศัยเก่าซึ่งมีเพียงที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ การพัฒนาคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ จึงได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยจากการเปิดขายเพียงวันเดียว บริษัทฯ สามารถปิดการขายเฉพาะโซนที่เปิดขายได้ทั้งหมด รวม 900 ยูนิต 4 อาคาร คิดเป็นมูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท ในขณะที่ยังมีลูกค้าที่แจ้งความประสงค์ต้องการห้องชุดไว้จำนวนมาก ทำให้บริษัทฯ ต้องปรับแผนเปิดขายโซนที่ 2 เร็วขึ้นเป็นวันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคมนี้"
"การบริหารจัดการชุมชนที่ดี ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นว่าจะมี คุณภาพชีวิตที่ดีเมื่อเข้าอยู่อาศัย ซึ่ง LPN ได้ให้ความสำคัญและกำหนดให้ทุกโครงการมีบริการรอบด้านไว้รองรับความต้องการ เช่น บริการรถรับส่งจากโครงการไปยัง Mass Transit ร้านค้าและบริการพิเศษต่างๆ ที่ให้บริการภายในโครงการ เป็นต้น ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นทำเลใดหรือการพัฒนาภายใต้แบรนด์ใด ลูกค้าจะได้รับการบริการและความสะดวกสบายสูงสุดเช่นเดียวกัน ตามหลักการบริหาร "ชุมชนน่าอยู่" ที่ให้ความสำคัญทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการอยู่อาศัยในทุกโครงการของ LPN" นายโอภาส กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2550