บริษัทและบริษัทย่อย ดำเนินงานใน 2 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มธุรกิจห้บริการที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) ประกอบธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาอาคารชุดพักอาศัย สำหรับผู้ที่มีรายได้ระดับกลางถึงกลาง-ล่าง เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก (Focus Strategy) และตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา บริษัทได้ขยายกลุ่มเป้าหมาย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปสู่ผู้มีรายได้ระดับกลาง-ล่างถึงบน โดยใช้กลยุทธ์การตลาดในการสร้างความแตกต่างทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการ (Differentiation Strategy) การพัฒนาโครงการให้เหมาะกับผู้พักอาศัยทุกเพศ ทุกวัยภายใต้แนวคิด "LPN Design" ซึ่งสอดคล้องกับหลัก Universal Design ทั้งภายในห้องชุดและพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางนั้นได้รับการออกแบบเพื่อให้คนทุกวัยสามารถ ทำกิจกรรมร่วมกันได้ ทั้งยังได้ พัฒนางานบริการหลังการขายในรูปแบบการบริหารชุมชนภายใต้กลยุทธ์ “น่าอยู่” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ ที่แตกต่างและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า
บริษัทได้กำหนดตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการรับรู้และครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัท ซึ่งแยกตามวัตถุประสงค์ ในการพัฒนาเป็น 2 รูปแบบ คือ โครงการอาคารชุดพักอาศัย ทั้งในเมืองและตากอากาศ และโครงการบ้านพักอาศัย โดยในปี 2566 บริษัทได้ เปิดตัวกลุ่มแบรนด์ใหม่ ภายใต้ชื่อ “168” เพื่อปรับภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ครอบคลุมโครงการทั้งในรูปแบบ ของอาคารชุดพักอาศัยและบ้านพักอาศัย ในหลากหลายระดับราคา ตั้งแต่กลางถึงระดับบน
- 1.1 โครงการอาคารชุดพักอาศัยในเมือง
-
นอกจากการพัฒนาอาคารชุดพักอาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลแล้ว ตั้งแต่ปี 2555 บริษัทยังได้ขยายการพัฒนาไปยังต่างจังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี อุดรธานี เพชรบุรี และเขตการปกครองพิเศษพัทยา โดยบริษัทได้กำหนดตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ไว้ดังนี้ คือ
- 1) "เดอะ ลุมพินี"
แบรนด์ระดับพรีเมียมที่ได้รับการพัฒนาขึ้น เนื่องในโอกาสพิเศษ การดำเนินธุรกิจครบรอบ 24 ปีของบริษัท ตั้งอยู่ บนทำเลที่มีศักยภาพสูงสุดในซอยสุขุมวิท 24 แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก “เดอะ ลุมพินี” เหมาะสมกับ การใช้ชีวิตที่หรูหรา มีระดับ สะท้อนความสำเร็จของชีวิตที่เหนือกว่า
- 2) "ลุมพินี สวีท"
แบรนด์ระดับบนที่ตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยของเจ้าของธุรกิจหรือผู้บริหารระดับสูง ที่ต้องการสุนทรียภาพ ของการใช้ชีวิต เรียบง่าย แต่หรูหรา พร้อมความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตในแต่ละโครงการที่ไม่สูงมาก บนทำเล ย่านใจกลางเมืองและย่านธุรกิจที่สำคัญ สะดวกในการเดินทางด้วยระบบคมนาคมขนาดใหญ่ เช่น สถานีรถไฟฟ้า BTS MRT และทางด่วนสายสำคัญ ฯลฯ ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
- 3) "ลุมพินี ซีเล็คเต็ด"
แบรนด์ระดับกลาง-บน ที่มีการพัฒนาคุณค่าผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต (Lifestyle) ของกลุ่มเป้าหมายที่มี เอกลักษณ์ในแต่ละโครงการ โดยเริ่มพัฒนาแบรนด์นี้เป็นแห่งแรกในทำเลตรงข้ามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงได้ ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของนักศึกษา (Campus Condo) เช่น พื้นที่สำหรับการนั่งทำงานกลุ่ม มุมสงบในการอ่านหนังสือ รวมถึงพื้นที่เพื่อระดมสมอง ออกกำลังกาย และทำกิจกรรมกลางแจ้ง
- 4) "ลุมพินี เพลส"
แบรนด์ระดับกลาง-บน ที่พัฒนาขึ้นสำหรับกลุ่มเป้าหมายคนวัยทำงาน ทำเลในการพัฒนาโครงการดังกล่าวจึงอยู่ ในเขตที่มีความหนาแน่นสูง ติดถนนใหญ่ อาจอยู่ในเขตใจกลางหรือรอบศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) สะดวกในการเดิน ทางด้วยทำเลที่ใกล้ระบบคมนาคมขนาดใหญ่ที่ทันสมัย ครบครันด้วยเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สมบูรณ์ พร้อมต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยแบรนด์ “ลุมพินี เพลส” ถือเป็นโครงการต้นแบบของซิตี้คอนโด ตามแนวรถไฟฟ้า ในราคาล้านต้นๆ ที่บริษัทพัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี 2544 ภายใต้แนวคิดในการออกแบบ LPN Design ที่ให้ประโยชน์ใช้สอยสูงสุด และได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากสามารถตอบสนองความต้องการในการดำเนินชีวิตของกลุ่มเป้าหมายคนทำงานในเมือง
- 5) "ลุมพินี พาร์ค"
แบรนด์ระดับกลาง-บน ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นสำหรับชุมชนขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มคุณค่าของผลิตภัณฑ์ ที่นำไปสู่คุณค่าของงานบริการ ด้วยการพัฒนา “สวนรวมใจ” (Community Park) สวนพักผ่อนขนาดใหญ่ ที่ร่มรื่นด้วยพื้นที่สีเขียวและพื้นที่ที่ผู้อยู่อาศัยสามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นระหว่างครอบครัวหรือเพื่อนบ้านในโครงการสอดรับกับแนวคิดของการสร้าง “ชุมชนน่าอยู่” ที่ผู้อยู่อาศัยอยู่ร่วมกันด้วยวัฒนธรรม “ร่วมใจ ห่วงใย แบ่งปัน” โดยเริ่มโครงการแรกที่โครงการลุมพินี พาร์ค ปิ่นเกล้า
- 6) "ลุมพินี วิลล์"
แบรนด์ระดับกลาง ซึ่งถูกพัฒนาและต่อยอดมาจากแบรนด์ “ลุมพินี เพลส” เพื่อคนในวัยทำงาน ที่ต้องการมองหาบ้านหลังแรกเพื่อความสะดวกในการเดินทางและการอยู่อาศัยที่เป็นส่วนตัว ทำเลที่ตั้งโครงการจึงอยู่ในเขตที่มีความหนาแน่นสูง ใกล้แหล่งงาน และสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน ฯลฯ แบรนด์ “ลุมพินี วิลล์" จึงเป็นทางเลือกสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการใช้ชีวิตในแบบของตนเองขณะที่ยังคงอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัวเดิม
- 7) "ลุมพินี คอนโดทาวน์"
แบรนด์ระดับกลาง-ล่าง ที่มุ่งสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับกลุ่มคนวัยเริ่มต้นการทำงาน ผู้ประกอบอาชีพ อิสระ โดยทำเลที่ตั้งโครงการจะอยู่ในเขตรอยต่อระหว่างใจกลางเมืองกับเขตรอบนอกที่มีความหนาแน่นสูง ซึ่งเป็น กลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่ที่มีความต้องการที่พักอาศัยสูง เพื่อให้เป็นบ้านหลังแรกที่มีคุณภาพ และเป็นจุดเริ่มต้นของ ครอบครัวที่อบอุ่นสำหรับผู้ที่อยู่ในวัยเริ่มต้นของชีวิตครอบครัว
- 8) "ลุมพินี ทาวน์ชิป"
แบรนด์ระดับกลาง-ล่าง ที่มีขนาดใหญ่ในระดับชุมชนเมือง ที่บริษัทพัฒนาขึ้นเพื่อสร้างโอกาสในการเป็นเจ้าของ ที่อยู่อาศัยได้โดยง่าย ด้วยราคาที่จับต้องได้ (Affordable Price) ภายใต้กลยุทธ์การสร้าง "ชุมชนเมืองน่าอยู่" (Livable Township) สำหรับกลุ่มเป้าหมายระดับกลาง-ล่าง โดยเริ่มพัฒนาที่โครงการ “ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต - คลอง 1" เป็นโครงการแรก บนพื้นที่ขนาด 100 ไร่ จำนวนกว่า 10,000 ยูนิต พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นต่อ การใช้ชีวิตภายในโครงการอย่างครบครัน เช่น สันทนาการที่หลากหลายเพื่อรองรับผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก ศูนย์การค้า ชุมชนด้านหน้าโครงการ ร้านสะดวกซื้อ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ดีแก่ผู้อยู่อาศัย
- 1) "เดอะ ลุมพินี"
- 1.2 โครงการอาคารชุดพักอาศัยตากอากาศ
-
นอกจากการอยู่อาศัยในเขตเมืองซึ่งใกล้แหล่งงานและสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตแล้ว บริษัทยังได้ริเริ่มการพัฒนาบ้านหลังที่ 2 ที่เป็นคอนโดตากอากาศ โดยเริ่มขยายการพัฒนาไปที่เขตการปกครองพิเศษพัทยาเป็นที่แรก ตามด้วยอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
- 1) "ลุมพินี พาร์คบีช"
แบรนด์รีสอร์ตคอนโดระดับกลาง-บน ที่ต่อยอดมาจากแบรนด์ “ลุมพินี พาร์ค” ซึ่งผสมผสานระหว่างบรรยากาศ ของ “สวนรวมใจ” และความมีชีวิตชีวาของบรรยากาศชายทะเล โดยพัฒนาเป็นที่แรกที่โครงการ “ลุมพินี พารค์บีช จอมเทียน" ซึ่งโครงการดังกล่าวออกแบบให้ห้องชุดทุกห้องสามารถมองเห็นวิวทะเลได้ ในระดับราคาที่จับต้องได้ ด้วยความสำเร็จจากการตอบรับที่ดีของลูกค้า บริษัทจึงได้ขยายการพัฒนาไปยังอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ในปี 2558 ที่ผ่านมา
- 2) "ลุมพินี ซีวิว จอมเทียน"
แบรนด์รีสอร์ตคอนโดระดับกลาง เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายเพื่อคนในวัยทำงานที่ต้องการบ้านพักตากอากาศวิว ชายทะเล โดยเริ่มพัฒนาโครงการแรกในทำเลพัทยา ภายใต้ชื่อโครงการ “ลุมพินี ซีวิว จอมเทียน" บนทำเลต่อ เนื่องมาจากโครงการ “ลุมพินี พาร์คบีช จอมเทียน" ซึ่งเป็นรีสอร์ตคอนโดโครงการแรกของบริษัท เพื่อให้เป็น บ้านพักตากอากาศในราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้โดยง่าย สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ระดับกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้า หลักของบริษัท พร้อมสัมผัสมุมมองและกลิ่นอายทะเลที่กว้างสุดตา ภายใต้การบริหารจัดการ “ชุมชนน่าอยู่” การให้บริการที่สนองตอบต่อวิถีชีวิตของคนที่ต้องการมาพักในแบบของรีสอร์ตคอนโด
- 1) "ลุมพินี พาร์คบีช"
- 1.3 โครงการบ้านพักอาศัย
-
ในปี 2554 เพื่อต่อยอดฐานลูกค้า บริษัทได้ขยายขอบเขตการพัฒนาโครงการไปยังโครงการบ้านพักอาศัยและทาวน์เฮาส์ ระดับกลาง ถึงกลาง-ล่าง โดยนำจุดแข็งของการพัฒนาโครงการอาคารชุดพักอาศัยมาปรับใช้ ทั้งในเรื่องของการออกแบบเพื่อประโยชน์ใช้สอย (LPN Design) การบริหารจัดการต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพ รวมถึงการบริการหลังการขาย ตามกลยุทธ์ “ชุมชนน่าอยู่” และในปี 2560 บริษัท ได้ขยายการพัฒนาโครงการให้ครอบคลุมกับลูกค้าที่ต้องการบ้านพักอาศัยในระดับพรีเมียม โดยบริษัทได้กำหนดตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ ไว้ดังนี้ คือ
- 1) "บ้าน 365"
แบรนด์บ้านพักอาศัยระดับพรีเมียม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเรือธงสำคัญ ในการพัฒนาโครงการประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมของบริษัท เน้นความพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกที่ดิน โดยโครงการแรกที่พัฒนาอยู่บนถนนพระราม 3 เนื่องจากเป็นทำเลที่อยู่ในเมือง แต่มีความเป็นส่วนตัว ตอบโจทย์ความต้องการบ้านในเมือง สำหรับลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง และมีแนวโน้มขยายครอบครัวเพื่อรองรับการอยู่อาศัยที่รวมคน 3 วัย ไว้ด้วยกัน
- 2) "ลุมพินี ทาวน์เพลส"
แบรนด์บ้านพักอาศัยระดับกลางบน ที่พัฒนาขึ้นสำหรับกลุ่มเป้าหมายวัยทำงาน อายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป โดยบริษัท ได้คัดสรรทำเลที่เดินทางเข้า-ออก สะดวกได้หลายเส้นทาง ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก ที่ทำให้ชีวิตประจำวันสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ตอบสนองการอยู่อาศัยในเมืองด้วยวิถีใหม่อย่างลงตัว ด้วยการออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง และส่วนตัวบ้านได้อย่างเหมาะสมกับการอยู่อาศัยอย่างพอดี คัดสรรวัสดุมีคุณภาพยกระดับคุณภาพชีวิต และคุณภาพสังคม
- 3) "ลุมพินี ทาวน์วิลล์"
แบรนด์บ้านพักอาศัยระดับกลาง ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าอาคารชุดพักอาศัย (คอนโดมิเนียม) ที่ต้องการขยายพื้นที่ใช้สอย เหมาะกับ คนทำงาน อายุระหว่าง 25-35 ปี ที่มีสมาชิกในครอบครัวเพิ่มขึ้น จึงต้องการขยายครอบครัว ซึ่งบริษัทได้พัฒนารูปแบบบ้านให้สามารถตอบโจทย์ และแบ่งพื้นที่ใช้สอยอย่างลงตัวสำหรับสมาชิกทุกคน ทั้งในส่วนของตัวบ้านที่ออกแบบฟังก์ชันครบทั้งห้องรับแขก ห้องครัว ห้องนอน และมีจัดเตรียม ห้องสำหรับผู้สูงอายุ รองรับไว้อย่างพอดี ในราคาที่เหมาะสม (Affordable Price) ตลอดจนการจัดเตรียมพื้นที่ส่วนกลางทั้งสวน และคลับเฮ้าส์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เชื่อมโยงผู้อยู่อาศัยให้มีกิจกรรมร่วมกันในสังคม ภายใต้วัฒนธรรมการอยู่อาศัย “ร่วมใจ ห่วงใย แบ่งปัน”
ด้วยนิยามของที่พักอาศัยที่เปลี่ยนไป บ้านต้องเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย ตอบสนองการใช้ชีวิตได้ในทุกๆ ด้าน ไม่เพียงแค่เป็นที่พักผ่อน แต่ต้อง สะท้อนตัวตน และสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ตอบสนองวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ทั้งพื้นที่ส่วนตัว หรือพื้นที่ทำงาน รองรับทุกความต้องการของครอบครัว ให้สามารถใช้เวลาร่วมกันได้เต็มที่ และการใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย พร้อมอุ่นใจกับเทคโนโลยีที่ช่วยให้ทุกสิ่งเป็นเรื่องง่าย
Condominium
- 1) "เพลส 168"
แบรนด์ระดับกลาง-บน อยู่ในบนทำเลย่านธุรกิจ เดินทางสะดวกติดถนนใหญ่ หรือใกล้ระบบขนส่งคมนาคม ขนาดใหญ่ เน้นการออกแบบการอยู่อาศัยให้สนับสนุนการใช้ชีวิตของคนเมืองรุ่นใหม่ พร้อมผลักดันชีวิตไปข้างหน้า ด้วยการออกแบบฟังก์ชันใหม่ๆ แห่งการอยู่อาศัย โดยใช้เทคโนโลยีให้ชีวิตง่ายขึ้น พร้อมพื้นที่ที่ตอบสนองการพักผ่อน และชีวิตการทำงาน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการประสบความสำเร็จทั้งเรื่องการงาน และชีวิตส่วนตัว เพราะที่นี่ ทุกตารางนิ้ว คือความสำเร็จ
- 2) "พาร์ค 168"
แบรนด์ระดับกลาง-บน ที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบการอยู่อาศัยร่วมกับธรรมชาติ ผสานวิถีคนเมือง พร้อมคัดสรร เทคโนโลยีได้อย่างลงตัว เพื่อปรับสมดุลให้ชีวิตด้วย ให้สามารถพักผ่อนท่ามกลางพื้นที่สีเขียวในบรรยากาศผ่อนคลาย กับความสุขที่แทรกตัวอยู่ในการใช้ชีวิตทุกวัน
- 3) "เอิร์น"
แบรนด์ที่บริษัทพัฒนาขึ้นสำหรับการลงทุน เพื่อนักลงทุน บนทำเลศักยภาพ พร้อมส่งมอบคุณค่าด้วยความคุ้มค่า ให้ชีวิตงอกเงย
Housing
- 1) "เรสซิเดนซ์ 168"
อีกระดับของนิยามใหม่ของบ้านพักอาศัยพรีเมียม แบรนด์ Residence 168 ที่ใส่ใจทุกรายละเอียดของชีวิต ออกแบบ จากความเข้าใจ สะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้อย่างชัดเจน โดดเด่น มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร และเติมเต็มทุกมุมของ การใช้ชีวิต ในทุกโมเมนต์ เพื่อให้ที่นี่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับคุณ
- 2) "วิลล่า 168"
แบรนด์บ้านเดี่ยวสไตล์รีสอร์ท ระดับกลางบน ที่ออกแบบเพื่อความเป็นส่วนตัว และสัมผัสช่วงเวลาที่ดีที่สุด คิดเพื่อชีวิต ที่ต้องการความผ่อนคลายในสไตล์รีสอร์ท เงียบสงบและเป็นส่วนตัวให้สัมผัสชีวิตสบายๆ ไม่เร่งรีบ พร้อมเปิดรับ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดได้ทุกวัน
- 3) "เมซอง 168"
แบรนด์ทาวน์โฮมระดับกลางบน ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว ด้วยแนวคิด บ้านที่เรียบง่าย แต่โดดเด่นเรื่องความโปร่งโล่ง และฟังก์ชันใช้งานครบครัน
- 4) "เฮ้าส์ 24"
แบรนด์บ้านเดี่ยวระดับกลาง กับบ้านเจนเนเรชั่นใหม่ของวิถีทันสมัย พัฒนาขึ้นสำหรับครอบครัวเดี่ยวขนาดเล็ก ให้เป็นบ้านที่มีความเป็นส่วนตัว ตอบไลฟ์สไตล์ที่เน้นความสะดวกในการอยู่อาศัยและการทำงาน สามารถปรับเปลี่ยน การใช้งานได้อย่างอิสระ ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ครอบครัวยุคใหม่
- 5) "เวนู 24"
แบรนด์บ้านพักอาศัยระดับกลางล่าง ที่ให้ความสำคัญสูงสุดกับการออกแบบจากไลฟ์สไตล์ของครอบครัวเมืองรุ่นใหม่ พร้อมตอบทุกความต้องการของทุกคนที่มองหาบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยครบครัน สำหรับการเริ่มต้นของครอบครัว พื้นที่ ที่ปรับเปลี่ยนได้ ยืดหยุ่นต่อการใช้ชีวิตทั้งวันนี้และอนาคต
- 1) "บ้าน 365"
2. กลุ่มธุรกิจให้บริการ
บริษัทได้กำหนดนโยบายการบริการหลังการขายเพื่อดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่องในทุกโครงการ จึงได้จัดตั้งบริษัทในกลุ่มธุรกิจให้บริการที่มี ความเกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขึ้น 6 บริษัท เพื่อให้บริการในด้านต่างๆ ได้แก่
- 1. บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP)
-
1.1 งานบริหารชุมชน
รับผิดชอบในการบริหารจัดการชุมชนที่มุ่งเน้นการเพิ่มคุณค่าของการบริการหลังการส่งมอบโครงการที่บริษัท พัฒนาขึ้น ด้วยกลยุทธ์ “ชุมชนน่าอยู่” ซึ่งพัฒนามาเป็นกลยุทธ์ “ชุมชนน่าอยู่เพื่อทุกวัย" โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษา ชื่อเสียง และคุณค่าของโครงการภายใต้การพัฒนาของบริษัทและชุมชนผู้พักอาศัยด้วยทีมงานบริหารชุมชนมืออาชีพ โดยบริหารจัดการทรัพย์สินภายในโครงการ บริหารจัดการงบประมาณ ดูแลคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม รวมทั้ง ความปลอดภัย และผู้มีส่วนได้เสีย ได้แก่ ผู้อยู่อาศัย ทีมบริหารชุมชน และคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุด ภายใต้กลยุทธ์ "F-B-L-E-S+P"
1.2 งานบริหารอาคารพักอาศัย สำนักงาน และอาคารเชิงพาณิชย์
รับผิดชอบในการบริหารจัดการทรัพย์ส่วนกลางและพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อตัวอาคาร รวมถึงให้บริการบริหารงานระบบ การจัดการสินทรัพย์ให้เช่า วางระบบ-บริหารจัดการอาคารชุด รวมถึงการบริหารอาคารสำนักงาน และอาคารเชิงพาณิชย์ ร้านค้าขนาดใหญ่ หรืออาคารธุรกิจอื่นๆ ตามขอบเขตงานที่ผู้ว่าจ้างกำหนด นอกเหนือจากรับบริหารอาคาร การดูแลอาคารให้เหมาะสมกับการใช้งานแล้ว บริษัท ยังดูแลถึงประสิทธิภาพของการปฏิบัติงาน ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและคุ้มค่า ตั้งแต่การวางแผน การควบคุม การประเมินผล รวมทั้งการจัดฐานข้อมูลและการตรวจสอบ ด้วยบุคลากรและทีมงานที่มากประสบการณ์ในทุกๆ ด้าน
1.3 งานบริการจัดหาผู้เช่า และผู้ซื้อ
รับผิดชอบในการบริหารทรัพย์สินประเภทห้องชุดพักอาศัยที่ผู้ซื้อ (นักลงทุน) ต้องการจัดหาผู้เช่าและผู้ซื้อ นอกจากนั้นยังดำเนินการ ตรวจคัดกรองผู้เช่า เพื่อความปลอดภัยในชุมชน
1.4 งานบริการด้านวิศวกรรม
รับผิดชอบในการให้บริการด้านวิศวกรรมอาคารชุดตามความต้องการของลูกค้าแบบครบวงจร ดำเนินงานตั้งแต่การดูแลควบคุมการบำรุงรักษา การซ่อมแซมอาคารชุด เช่น งานระบบไฟฟ้า ระบบสุขาภิบาล ระบบป้องกันอัคคีภัย ระบบปรับอากาศ และงานทาสีอาคาร เป็นต้น การจัดทำแผนงาน ตลอดจนการวางแผนควบคุมค่าใช้จ่าย ด้วยบุคลากรที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดอาทิ การซ่อมแซมภายในห้องชุด งานออกแบบและปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย และงานปรับปรุงระบบอาคาร
- 2. บริษัท แอล พี เอส โปรเจค มาเนจเมนท์ จำกัด (LPS)
-
รับผิดชอบงานบริการบริหารโครงการก่อสร้างให้แก่บริษัทและบริษัทในเครือ โดยได้รับการสนับสนุน จาก LPN Team กว่า 20 บริษัท นอกจากนี้ ในปี 2560 บริษัทยังได้ขยายฐานธุรกิจ โดยเปิดให้บริการแก่ โครงการภายนอกอีกด้วย โดยมุ่งเน้นการบริหารโครงการเพื่อการส่งมอบคุณค่าผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้า ได้แก่ การบริหารคุณภาพ การควบคุมและบริหารต้นทุน ความรวดเร็วในการส่งมอบ ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงความปลอดภัยของคนงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ภายใต้กลยุทธ์ "Q-C-S-E-S+P"
- 3. บริษัท รักษาความปลอดภัย แอลเอสเอส โซลูชั่นส์ จำกัด (LSS)
-
รับผิดชอบด้านงานรักษาความปลอดภัย โดยบูรณาการงานรักษาความปลอดภัยด้วยบุคคลและเทคโนโลยี งานระบบ มุ่งเน้นให้บริการแก่โครงการที่บริษัทพัฒนาขึ้น เพื่อสนับสนุนนโยบายการให้บริการชุมชน แบบครบวงจร กำกับควบคุมประสิทธิภาพความปลอดภัย และรักษาคุณภาพการบริหาร “ชุมชนน่าอยู่” นอกจากนั้น บริษัทได้เปิดรับบริการรักษาความปลอดภัยครบวงจร สำหรับโครงการภายนอกด้วย
- 4. บริษัท แอล พี ซี วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด (LPC)
-
รับผิดชอบด้านงานบริการชุมชน โดยให้บริการด้านการดูแลรักษาความสะอาดและการบริการอย่างครบวงจร ทั้งภายในและภายนอกโครงการที่บริษัทพัฒนาขึ้น เดิมดำเนินงานภายใต้ชื่อ บริษัท ลุมพินี พร็อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส แอนด์ แคร์ จำกัด ซึ่งจัดตั้งขึ้น เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างศักดิ์ศรีให้กับกลุ่มสตรีด้อยโอกาส ในสังคม และขยายกลุ่มพนักงานจากสตรีด้อยโอกาส ไปยังกลุ่มคนพิการและผู้สูงวัย ในปี 2561 ได้รับ การรับรองเป็นกิจการเพื่อสังคมจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นกลุ่มแรกในประเทศไทย
- 5. บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด (LWS)
-
รับผิดชอบด้านงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่บริษัทและบริษัทในเครือ รวมถึงบริการให้คำปรึกษา และวิจัยด้าน GREEN หรือ Sustainable Development และ BIM (Building Information Modeling) แก่บริษัทและองค์กรภายนอกทั้งภายในและต่างประเทศ
- 6. บริษัท พี ดับบลิว กรุ๊ป เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด (PWG)
-
รับผิดชอบด้านงานให้บริการรับเหมาปรับปรุงอาคารและระบบวิศวกรรม เช่น ระบบสุขาภิบาล โดยเฉพาะระบบท่อน้ำดี ท่อน้ำทิ้ง ระบบป้องกันอัคคีภัย ระบบปรับอากาศ และงานปรับปรุงด้านสถาปัตยกรรมอาคาร โดยให้บริการกับอาคารทุกประเภท