ชี้แจงผลการดำเนินการไตรมาส 3 ปี 2549

Backพฤศจิกายน 10, 2549

ที่ LPN/สก/452/49

10 พฤศจิกายน 2549

เรื่อง 1. ขอนำส่งงบการเงินไตรมาส 3 ประจำปี 2549
  2. ขอชี้แจงผลการดำเนินงานที่เปลี่ยนแปลงเกินกว่าร้อยละ 20

เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สิ่งที่ส่งมาด้วย งบการเงินไตรมาส 3 ประจำปี 2549 ของบริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อย และบริษัทร่วม จำนวน 1 ชุด (ฉบับภาษาไทย และภาษาอังกฤษ)

          ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ มาตรา 56 ว่าด้วยเรื่องการเปิดเผยข้อมูลที่ให้ บริษัทจัดส่งงบการเงินภายในระยะเวลา 45 วัน นับจากวันสุดท้ายของไตรมาส 3 นั้น บัดนี้บริษัทขอนำส่งงบการเงิน ของบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อย และบริษัทร่วม ไตรมาส 3 ประจำปี 2549 มายังท่านเพื่อดำเนินการต่อไป

          บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) ยังคงเป็นผู้นำตลาดอาคารชุดพักอาศัย ในระดับกลาง?ล่างอยู่ เนื่องจากยังมีช่องว่างทางการตลาดอีกมาก ถึงแม้ว่าจะมีคู่แข่งขันเริ่มเข้ามาในตลาดนี้บ้าง แต่บริษัทฯก็ได้วางแผนสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งขันด้วยการเพิ่มการบริการ สิ่งอำนวยความสะดวก และการให้ความสำคัญในการสร้างชุมชนสังคมให้น่าอยู่ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตทั้งจากภายในโครงการ ของบริษัทฯ และบริเวณข้างเคียง ทำให้บริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในด้านจำนวนยูนิตที่จดทะเบียน โดยใช้กลยุทธ์ Cost Leadership และ Speed เป็นตัวผลักดันการบริหารงานภายในองค์กรให้เกิด ประสิทธิภาพสูงสุด

          ส่วนผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2549 นั้น บริษัทฯ บริษัทย่อยและบริษัทร่วม มีรายได้รวม 1,392.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2548 ที่มีรายได้รวม 1,292.65 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 7.74 โดยเป็นผลมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดและรับรู้รายได้ใน โครงการลุมพินี วิลล์ ศูนย์วัฒนธรรม 509 ยูนิต มูลค่า 695.84 ล้านบาท รวมถึงโครงการที่โอนกรรมสิทธิ์ และรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ปี 2549 ได้แก่ โครงการลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 77 และลุมพินี เพลส ปิ่นเกล้า อีกจำนวน 334 ยูนิต มูลค่า 593.64 ล้านบาทด้านกำไรขั้นต้นจากการขายได้ปรับลดลงจากร้อยละ 34.22 ในไตรมาสที่ 3 ปี 2548 เป็นร้อยละ 32.07 ในไตรมาสนี้ สาเหตุหลักคือ การรับรู้รายได้ จากการโอนกรรมสิทธิ์ ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการ ลุมพินี วิลล์ ศูนย์วัฒนธรรม ซึ่งเป็นโครงการแรกที่เปิดตัว ภายใต้วิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาอาคารชุดพักอาศัยแบบบูรณาการ (Total Solution) เพื่อสร้างสรรชุมชนคุณภาพ บริษัทฯ จึงได้ลงทุนเพิ่มในส่วนของค่าก่อสร้างและสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้ามากขึ้น ทำให้ผู้อยู่อาศัย มีความเชื่อมั่นต่อบริษัทฯในระยะยาวพร้อมช่วยแนะนำญาติและเพื่อนสนิทให้เข้ามาอยู่อาศัยในสังคมที่ดีร่วมกัน แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นไว้ไม่ให้ต่ำกว่าร้อยละ 30 ตามที่กำหนดไว้ จากเหตุผลดังกล่าวกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2549 จึงมีจำนวน 223.82 ล้านบาท ลดลงจาก 238.07 ล้านบาท จากปีก่อนหรือลดลงร้อยละ 5.99

          หากพิจารณางบกระแสเงินสด ณ 30 กันยายน 2549 มีเงินสดคงเหลือจำนวน 276.70 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมี 419.43 ล้านบาทหรือลดลงร้อยละ 34.03 เนื่องมาจากมีการ จ่ายเงินปันผล สำหรับผลประกอบการปี 2548 และครึ่งปีแรกของปี 2549 รวมทั้งสิ้น 442.82 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจาก 261.32 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อย 69.45

          อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ณ 31 ธันวาคม 2548 และ ณ 30 กันยายน 2549 เพิ่มจาก 0.51:1 เป็น 0.75:1 ตามลำดับ ส่วนหนี้ที่มีดอกเบี้ยก็ยังมีอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้นจาก 0.19:1 เป็น 0.30:1 ทั้งนี้ในส่วนของอุตสาหกรรมการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ขยับตัวขึ้นสูงและลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากในบางไตรมาสจะเป็นช่วงของการลงทุนต่อมาเมื่อโครงการก่อสร้าง แล้วเสร็จก็พร้อมโอนกรรมสิทธิ์และรับเงินสดทันทีในไตรมาสหลังจากนั้น ทำให้ภาระเงินกู้ยืมลดลงอย่างรวดเร็ว

          อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 4 ปี 2549 นี้ บริษัทฯ ยังคงเหลือโครงการที่ค้างโอนกรรมสิทธิ์ และรับรู้รายได้อีก 924 ยูนิต มูลค่า 1,470 ล้านบาท ได้แก่โครงการลุมพินี วิลล์ ศูนย์วัฒนธรรม , ลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 77 และลุมพินี เพลส ปิ่นเกล้า

ตารางสรุปตัวเลขที่สำคัญ

รายการ
งบการเงินรวม
 
Q3/2549
Q3/2548
%เปลี่ยนแปลง
9เดือน2549
9เดือน2548
%เปลี่ยนแปลง
1. รายได้รวม (ล้านบาท)
1,392.66
1,292.65
7.74%
3,760.56
2,768.95
35.81%
2. กำไรขั้นต้นจากการขาย (%)
32.07%
34.22%
(2.15%)
32.91%
35.79%
(2.88%)
3. กำไรขั้นต้นจากการเช่า และบริการ (%)
40.21%
28.54%
11.70%
45.37%
26.06%
19.32%
4. กำไรขั้นต้นจากการบริหาร จัดการ (%)
25.72%
32.50%
(6.78%)
35.30%
51.57%
(16.28%)
5. กำไรขั้นต้นจากรายการ ที่ 2-4 (ล้านบาท)
441.74
436.63
1.17%
1,220.02
994.74
22.65%
6. กำไรขั้นต้นจากรายการ ที่ 2-4 (%)
31.98%
34.15%
(2.17%)
33.05%
36.25%
(3.20%)
7. ค่าใช้จ่ายขาย และบริหาร (ล้านบาท)
127.14
112.30
13.22%
436.06
300.65
45.04%
8. ค่าใช้จ่ายขาย และบริหาร (%)
9.13%
8.69%
0.44%
11.60%
10.86%
0.74%
9. กำไรก่อนดอกเบี้ยและ ภาษีเงินได้ (ล้านบาท)
324.64
337.85
(3.91%)
848.58
715.70
18.57%
10. กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี เงินได้ (%)
23.31%
26.14%
(2.83%)
22.57%
25.85%
(3.28%)
11. กำไรสุทธิ (ล้านบาท)
223.82
238.07
(5.99%)
596.50
470.71
26.72%
12. กำไรสุทธิ (%)
16.07%
18.42%
(2.35%)
15.86%
17.00%
(1.14%)
13. กำไรสุทธิต่อหุ้น (บาท)
0.15
0.18
(16.67%)
0.40
0.36
11.11%
14. มูลค่าหุ้นทางบัญชี
2.13
2.02
5.45%
2.13
2.05
3.90%

จึงเรียนมาเพื่อทราบ


ขอแสดงความนับถือ

(นายโอภาส ศรีพยัคฆ์)
     กรรมการผู้จัดการ

สำนักกรรมการผู้จัดการ
โทร 02-285-5011-6 ต่อ 133 คุณขจิต


Please read our General Disclaimer & Warning carefully.
Use of this Website constitutes acceptance of the Terms of Website Use.
Copyright © 2024. ThaiListedCompany.com. All Rights Reserved.